สรุปข้อมูลราคา สเปก วันจอง “Samsung Galaxy Note 9” มือถือเรือธงมีปากกา หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
จบกันไปแล้วสำหรับการ Live สดการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 9 ส่งตรงจาก New York ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วรายละเอียดของตัวเครื่องจากการเปิดตัวจะมีอะไรบ้าง ทีม Sanook! Hitech ได้สรุปรายละเอียดออกมาดังต่อไปนี้
หน้าจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้วความละเอียด QHD+ (2960x1440 พิกเซล) และใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED
ขนาด : ความสูง 161.9 มม. x ความกว้าง 76.4 มม. x บาง 8.8 มม.
หนัก : โดยประมาณ 201 กรัม(รวมแบตเตอรี่)
ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 845 / Exynos 9810
RAM : 6 - 8GB
ความจุ(ROM) : 128GB / 512GB เพิ่มได้ด้วย Micro SD สูงสุด 512GB
กล้องหลัง : เลนส์คู่ 12MP รูรับแสงขนาด F1.5 - F2.4 และอีกเลนส์ F2.4
กล้องหน้า : มาพร้อมความละเอียด 8MP รูรับแสงขนาด F/1.7
ตัวเชื่อมต่อเสียง 3.5mm, USB Type-C 2.0
ซิมแบบนาโน หรือ ช่องใส่ micro SD cards
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ(Fingerprint Sensor ), เซ็นเซอร์สแกนม่านตา Iris Scanner และ สแกนใบหน้า (Face Unlock) และมี Intelligent Scanner
คุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S Pen ที่รองรับการทำงานผ่าน Bluetooth
เชื่อมต่อ 4G LTE รองรับได้ที่ Cat 18
ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo)
รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และการชาร์จแบบไร้สาย
แบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh
สี: Metallic copper, Lavender purple, Ocean blue, Midnight black
ราคา: 33,900 บาท
VIDEO
VDO by IamAumReview รีวิว Galaxy Note 9 สนิทกับ Note 9 ภายใน 12 นาที
คุณสมบัติพิเศษของ ปากกา S Pen ใน Galaxy Note 9 รุ่นล่าสุด
รูปร่างคล้ายกับรุ่นเดิม แต่มีการปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นที่ 6.4 นิ้วความละเอียด QHD+ และใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED ด้านหลังเป็นกล้องหลังคู่แนวนอนพร้อม LED Flash , ระบบวัดชีพจร และมีสแกนลายนิ้วมือย้ายตำแหน่งลงมา พร้อมกับสีสันตัวเครื่องที่ให้เลือก 4 สีคือ Metallic copper, Lavender purple, Ocean blue, Midnight black
รูปร่างคล้ายกับรุ่นเดิม แต่มีการปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นที่ 6.4 นิ้วความละเอียด QHD+ และใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED ด้านหลังเป็นกล้องหลังคู่แนวนอนพร้อม LED Flash, ระบบวัดชีพจร และมีสแกนลายนิ้วมือย้ายตำแหน่งลงมา พร้อมกับสีสันตัวเครื่องที่ให้เลือก 4 สีคือ Metallic copper, Lavender purple, Ocean blue, Midnight black
ขุมพลังของเครื่องยังคงเป็น Qualcomm Snapdragon 845 / Exynos 9810 พร้อมกับความจำในตัว 2 ขนาดให้เลือกคือ 128GB (จะได้ RAM 6GB) และ 512GB (จะได้ RAM 8GB) ถ้ายังไม่พอ สามารถใส่การ์ดความจำ Micro SD สูงสุด 512GB เท่ากับจะมีความจำในตัวสูงสุด 1TB (512GB + 512GB) เคลมว่า CPU ทำงานเร็วขึ้น 23% และมีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว แม้่ว่าจะใช้ CPU รุ่นเดียวกับ S9 แต่กลับทำงานได้ดีกว่า
แบตเตอรี่เพิ่มความจำที่ 4000 mAh ทำให้การใช้งานที่ยาวนานขึ้นพร้อมกับระบบ Fast Charging ทั้ง Wireless Charge และ สายปกติ ได้ลำโพง Stereo ปรับคุณภาพโดย AKG และจูนเสียงจากช่องเสียบหูฟังให้คุณภาพดีเช่นเคย
กล้องหลังติดตั้งเทคโนโลยี Intelligent Camera เรียนรู้การถ่ายภาพใน Scene Mode และมีการปรับเรื่องของ White Balance, โทนสี รูปแบบของภาพที่ออกมาตามสภาพแสงอัตโนมัติ และกล้องหลังยังเป็น Dual Aperture ปรับรูรับแสง F1.5 – F2.4 ได้เหมือนกับ Samsung Galaxy S9+ แต่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เหมือนเดิม
กล้องหน้าของ Samsung Galaxy Note 9 ให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม พร้อมกับรูรับแสงที่ดี และสามารถถ่ายภาพได้ด้วย S Pen ได้
ปากกา S Pen คงความละเอียดและเขียนบนน้ำได้ แต่รองนี้จะสั่งงานเครื่องผ่าน Bluetooth จนเรียกว่า Ultimate Remote Control ใช้ควบคุมการถ่ายภาพด้วยโปรแกรมถ่ายภาพปกติหรือจะผ่าน Snap Chat, สั่งหยุดหรือเล่นวิดีโอบน YouTube และ เลื่อนสไลด์ผ่าน S Pen ได้ แต่ต้องชาร์จไฟผ่านมือถือโดยใช้เวลา 40 วินาทีก็เต็มแล้ว แต่เรื่องการวาดเขียนและ Live Message ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม
Samsung Dex แบบไม่เสียบ USB-C แปลงเป็น HDMI เข้าสู่หน้าจอแล้วสั่งงานได้เลยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม Samsung Dex Station หรือ Samsung Dex Pad อีกต่อไป การเชื่อมต่อ Keyboard หรือ Mouse ใช้ Bluetooth ต่อกับมือถือได้เลย แถมตัว Samsung Galaxy Note 9 ก็ทำอย่างอื่นได้ทันที
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Samsung Galaxy Tab S4 ออกหน้าจอของ Tablet เช่นเดียวกัน
Samsung Bixby มีการปรับปรุงเรื่องความสามารถในการค้นหาเรื่องการแสดงสด หรือสถานที่นั้นมีกิจกรรมอะไรบ้าง รวมไปถึงการค้นหาข้อมูลต่างๆ เช่นร้านอาหารและที่เราอยากกินได้เช่นกัน โดยศึกษาจากเรื่องของการค้นหาของเรา และบอกรายละเอียดของร้านอาหารได้เป็นต้น แถมมีหน้าตาที่น่าใช้กว่าเดิม แสดงผลได้หลากหลายมากขึ้น
Samsung Galaxy Watch มีการเผยโฉมในงานนี้ด้วย
ความสามารถจัดเต็มด้วยขนาดมีให้เลือกทั้งหมด 2 ขนาดคือ 42 มิลลิเมตร และ 46 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังได้หน้าปัดนาฬิกาใหม่ และยังลงน้ำได้มาตรฐาน 5ATM เท่ากับสามารถว่ายน้ำได้
นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อกับ 4G LTE ได้ และสามารถใช้ได้นานกว่ารุ่นเดิม และชาร์จไฟผ่าน Wireless Charge Duo
เชื่อมต่อการทำงานกับ Samsung Health ที่สามารถเรียนรู้พฤติกรรมของคุณได้ทั้งการเรียนรู้เรื่องความเครียดของคุณ และสามารถช่วยลดความเครียดลงได้ และมีโปรแกรมออกกำลังกายมากมาย
นอกจากนี้ Samsung Galaxy Watch มีการบอกเรื่องของการนอนและให้คำแนะนำในการนอนว่าควรจะนอนเพิ่มหรือไม่ และสามารถบอกเรื่องราวที่คุณต้องทำ รวมถึงปฏิทินว่าคุณยุ่งหรือไม่
ยังมีการเปิดตัว Samsung Galaxy Home ลำโพงอัจฉริยะที่มีการปรับปรุงด้วย AKG ลำโพงขนาดใหญ่ 2 ตัวพร้อมกับ Sub Woofer 1 ตัวทำให้เสียงออกมาเป็นตัวธรรมชาติ และสามารถใช้สั่งงาน Bixby ได้ รวมถึง SmartThing ได้ด้วย
ส่วนราคาในต่างประเทศออกมาโทนจะแตะ 35,000 – 40,000 กันหมด คาดว่าราคาในไทยไม่แพงสุดเกือบแตะ 4 หมื่นบาทได้เช่นกัน ส่วนวันที่วางจำหน่ายทั่วโลกคือ 24 สิงหาคม
ตอนนี้ที่เหลือคือเรื่องของการได้สัมผัสเครื่องจริงแล้วว่า Samsung Galaxy Note 9 จะมีดีแค่ไหนกับการ Hands On ติดตามได้ที่ Sanook! Hitech เร็วๆ นี้ไม่นานเกินรอ
ในส่วนของราคาจำหน่ายนั้น ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 9 มีวางจำหน่าย 3 ได้แก่ สีโอเชี่ยนบลู (Ocean Blue) ที่มาพร้อมกับ S Pen สีเหลือง สีเมทัลลิก คอปเปอร์ (Metallic Copper) และสีมิดไนท์ แบล็ค (Midnight Black) ในราคา 33,900 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้า (Pre booking) เลือกรับสิทธิพิเศษมากมาย ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ตั้งแต่วันที่ 10-21 สิงหาคมนี้ ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
โดยลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้า จะได้รับสินค้าระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2561 จะต้องไปรับสินค้าในวันและเวลาที่เลือกไว้
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :samsung.com,Phonearena,Gsmarena